สำหรับเทรดเดอร์ที่เรียนรู้เทคนิคต่างๆ ในการเทรด forex อีกหนึ่งในเทคนิคนี้คือ “Scalping” หรือที่เรียกในภาษาไทย ว่า สกัลปิ้ง หรือ สกัลป์
นักเทรดส่วนใหญ่มีความเข้าใจว่าการเทรด scalping คือการเทรดระยะสั้น และเปิด lot size เพิ่มขึ้น
Scalping คือ การใช้กลยุทธ์ทางเทคนิคในการแสวงหากำไร โดยกำหนดตำแหน่งปิดออร์เดอร์เพื่อทำกำไร (Take Profit) และตำแหน่งปิดออร์เดอร์เพื่อตัดขาดทุน (Stop loss)
ประเภทของ Scalping มี 2 ประเภทคือ
- Classic scalping ส่วนใหญ่พวก prop trader (Proprietary Trader) จะใช้ศาสตร์นี้จะใช้ความสามารถตัวเอง แสวงหาช่องโหว่ในการทำกำไร
การเข้า order จะแม่นมาก ยิง order แล้วกราฟจะวิ่งไปในทิศทางเลย
มองเรื่องเวลาคือความเสี่ยง ไม่ถือออร์เดอร์ข้ามวัน และทำการเก็บสถิติมาก่อน โดยจะเปิดออร์เดอร์โดยใช้ lot size ที่ใหญ่ เพื่อลดระยะ Take Profit และ ลดระยะ Stop loss - Umbrella scalping ส่วนใหญ่ Hedge fund จะใช้ระบบนี้
มองเรื่อง volatility (ความผันผวน) คือความเสี่ยง การเปิดออร์เดอร์ยังคงเดิม ใช้การเลื่อน stop loss เพราะความผันผวนจะทำให้ออร์เดอร์โดน stop loss ได้
การเริ่มต้น Scalping
– กำหนด Risk:Reward เป็น 1:1 เพื่อหา % ในการเทรดชนะ (winrate)
– บันทึกสถิติการเทรดให้ชัดเจน เพื่อคำนวณ % winrate
Risk : Reward ; 1 : 1
หลักการพิจารณา
- 1. % > 50% [ RR 1 : 1 ] — ถือว่าระบบใช้ได้ ถ้าให้ดีต้องมี %winrate มากกว่า 60%
%Winrate < 50% [ RR 1 : 1 ] — ถือว่าต้องปรับปรุงระบบ หรือ ปรับ Risk : Reward
จากเดิมเป็น 1:1 อาจจะปรับเป็น 1:2 - %Winrate = 50% [ RR 1 : 1 ] — ต้องปรับปรุงระบบ หรือ ปรับ Risk : Reward
จากเดิมเป็น 1:1 อาจจะปรับเป็น 1:1.3 หรือ 1:1.5 ทำผลตอบแทนให้เป็น +
ต้องเก็บข้อมูลให้นานพอ สัก 2 ปี ขึ้นไป และควรเก็บข้อมูลการเทรดแยก Product แยกกัน
ข้อดีของ Scalping
- หาก % winrate สูง จะช่วยเร่งอัตราการเติบโตของพอร์ต / สร้างกระแสเงินสด
- สามารถใช้ทุนน้อย เพราะมี leverage ช่วยในการเทรด
- เนื่องจากมีการกำหนด stop loss จึงไม่ต้องสนใจเรื่องแนวโน้ม
ข้อแนะนำของ Scalping
- ต้องมีกระแสเงินสด (Cash flow) จากระบบอื่นในการเทรดมาก่อน
- ต้องรู้ช่วงเวลาเทรดได้ดี ช่วงเวลาควรหยุดการเทรด เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เทรดเดอร์จะเทรดได้ดีตลอด รวมถึงเรื่องสภาวะจิตใจของเราด้วย หรือกำหนดเงื่อนไขในการหยุดเทรด โดยการใช้ %มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Asset Value) หรือ สภาวะจิตใจเป็นตัวกำหนดจังหวะการหยุด
- พึงระลึกไว้เสมอว่า การใช้กลยุทธ์นี้ เทรดเดอร์อาจล้างพอร์ตได้ !! ให้ถอนต้นทุนออกเสมอ [ หลายคนพลาดตรงนี้ พยายามที่จะทบต้นไปเรื่อยๆ ]
- ต้องมีการจัดการสภาวะจิตใจที่ดี
- ต้องมีวินัยทำตามแผนเทรดของเราให้ได้เพื่อเราจะสามารถวัดผลของระบบได้
- ควรมีหลายๆ กลยุทธ์เพราะตลาดมีหลายสภาวะ
“Scalping รู้เทรนด์ (แนวโน้ม) อย่างเดียวไม่ได้ เราต้องรู้จังหวะของตลาดด้วย”
ที่มา : Exness